พบศพพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านกาบเชิง จ.สุรินทร์ อัตวินิบาตกรรมห่างจากจุดเกิดเหตุ 50 เมตร บิดาเผยเครียด อยู่ที่ค่าย 2 เดือนไม่ได้กลับบ้าน ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับสนามรบส่งผลจิตใจกำลังพล จำเป็นต้องมีทีมแพทย์และพยาบาลลงพื้นที่ประเมินสุขภาพจิตใกล้ชิด

วันนี้ (15 ส.ค.) จากกรณีที่พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง ก่อเหตุยิงนายอนุวัฒน์ สิงห์ชัย อายุ 32 ปี และนายวุทธนา นาประโคน อายุ 35 ปี ชาวบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ได้รับบาดเจ็บ เมื่อเวลา 00.45 น. ที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีไป

ล่าสุด กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงความคืบหน้า ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังต่อเนื่องประมาณ 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมา หน่วยได้ดำเนินการตรวจสอบยอดกำลังพล และพบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมนำอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่งออกไป

ทั้งนี้ หน่วยในพื้นที่ได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เข้าร่วมตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นมีข้อมูลสอดคล้องกันว่า พลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกค้นหาอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งเวลา 10.40 น. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบชายแต่งกายชุดทหาร นอนคว่ำหน้า ถอดหมวกเหล็ก โดยมีอาวุธปืนเล็กยาวเอ็ม 16 วางอยู่ข้างกาย บริเวณห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร การปฏิบัติเป็นไปอย่างรอบคอบ โดยใช้โดรนตรวจสอบทางอากาศ และจัดกำลังพลเข้าปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าว ภายหลังการตรวจสอบยืนยันว่าเป็น พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ ซึ่งได้ใช้อาวุธปืนประจำกายทำการอัตวินิบาตกรรมจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ในส่วนของสาเหตุ และแรงจูงใจ หน่วยจะดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน และรายงานความคืบหน้าต่อไป

ก่อนหน้านี้ นายประยูร เทพศิริ พ่อของพลทหารรัฐภูมิ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ลูกชายก่อเหตุหนีจากค่ายพร้อมถืออาวุธครบมือ และมีการก่อเหตุยิงชาวบ้าน ตนจึงเร่งเดินมาร่วมตามหาลูกชายตั้งแต่เวลา 04.00 น. พยายามติดต่อให้มอบตัว แต่ลูกชายไม่รับโทรศัพท์ แชทไปหาก็ไม่ตอบ ทำให้ตนรู้สึกเป็นห่วงลูกมาก ที่ผ่านมาลูกชายเคยเล่าให้ฟังว่า เขาเครียด อยู่ที่ค่าย 2 เดือนไม่ได้กลับบ้าน แต่ลูกไม่เคยเล่าปัญหาอื่นให้ฟังนอกจากอยากกลับบ้าน

ขณะที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ที่กองบัญชาการกองทัพบก กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นประชาชนทั้งสองรายอาการปลอดภัยแล้ว โดยย้ำว่าต้องตรวจสอบสาเหตุอย่างรอบด้านและให้ความเป็นธรรม โดยยอมรับว่าการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สู้รบส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของกำลังพล จำเป็นต้องมีทีมแพทย์และพยาบาลลงพื้นที่ประเมินผู้ที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตอย่างใกล้ชิด